bitcoin คืออะไร อธิบายแบบเข้าใจง่าย Step-by-Step
ประวัติความเป็นมา bitcoin คืออะไร
Bitcoin คือ เงินดิจิตอลสกุลหนึ่ง ไม่มีตัวเงินที่สามารถจับต้องได้แบบเงินสกุลของประเทศต่างๆ ที่มีใช้อยู่ทั่วโลก แต่ก็มีค่าและราคาในกลุ่มผู้ใช้งาน สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ โดยที่ราคาจะผันแปรตามอุปสงค์ อุปทาน ของผู้ต้องการ เสมือนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แต่ไม่มีเงินปันผลแบบหลักทรัพย์ สามารถขุดเพิ่มได้เหมือนทอง ซื้อสินค้าในโลกออนไลน์ได้ในร้านที่ยอมรับเงินสกุลนี้
เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆมีวิวัฒนาการไปอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน ทั้งทางด้านการสื่อสาร และระบบการเงิน ในยุคนี้เราคงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนของระบบธนาคารทั่วประเทศ บรรดาธนาคารต่างๆ เริ่มเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น เช่น การโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงธนาคาร การฝากเงินด้วยระบบอัตโนมัติ รวมถึงการเปิดบัญชี ณ ปัจจุบันนี้บัตรเอทีเอ็มที่เราเคยเห็นก็เริ่มได้รับความนิยมน้อยลงเช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีซึ่งมีข้อดีมากมาย นอกจากระบบของธนาคารที่ระบบที่เกี่ยวข้องกับธนาคารก็คือ เงิน ในยุคที่มีความทันสมัยเช่นนี้ ได้มีระบบสกุลเงินแบบใหม่ที่มีความทันสมัยขั้นสูงสุดซึ่งเป็นสกุลเงินแบบดิจิทัล สกุลเงินที่ว่านี้ เรียกกันว่า บิตคอยน์ (Bitcoin) หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว
บทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า บิตคอยน์ (Bitcoin) ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ประวัติความเป็นมา Bitcoin
บิตคอยน์ (Bitcoin) คือ สกุลเงินตราแบบดิจิทัล (cryptocurrency) เป็นระบบการชำระเงินที่ปัจจุบันนิยมใช้กันทั่วโลก เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ทำงานโดยไม่มีธนาคารกลาง ไม่มีผู้คุมระบบ Bitcoin เป็นเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ การซื้อขายแบบ network nodeโดยตรง ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยเข้ารหัสลับซึ่งเป็นรูปแบบสมการทางคณิตศาสตร์แบบไม่มีสื่อกลาง การซื้อขายต่างๆถูกตรวจสอบโดยระบบที่เรียกว่า Blockchainปัจจุบันมีร้านค้ามากมายทั่วโลก รับจ่ายเงินด้วย Bitcoin โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์
จุดเริ่มต้นของ Bitcoin เริ่มจากผู้คิดค้นที่ใช้ชื่อว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ ได้สร้างเว็บไซต์ bitcoin.org ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551 และในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552ซาโตชิ นากาโมโตะ ได้เริ่มทำบล็อคกำเนิดขึ้นมาที่ได้รางวัลจำนวน 50 Bitcoin ต่อมา Hal Finney เป็นผู้รับการซื้อขายบิตคอยน์ครั้งแรก เขาได้รับ 10 Bitcoin จาก ซาโตชิ นากาโมโตะ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการซื้อขาย Bitcoin อย่างจริงจัง
ต่อมา ซาโตชิ นากาโมโตะ ได้หายตัวไปจากระบบในเดือนธันวาคมของปี 2010 และมีผู้รับช่วงต่อในการดูแลและส่งต่อข้อมูล Bitcoin Core code ให้กับ Gavin Andresen ซึ่งเป็นผู้พัฒนาต่อมา
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ไม่สามารถจับต้องได้เหมือนกับการพิมพ์ธนบัตรที่เราใช้ทั่วไป ผู้ที่จะได้ Bitcoin มานั้นจะต้องทำการขุด ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนเครือข่ายของ Bitcoinเท่านั้น ราคาของ Bitcoin ถูกอ้างอิงด้วยสมการคณิตศาสตร์ ซึ่งคุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์ระบบ open source หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการถอดสมการทางคณิตศาสตร์เพื่อผลิต Bitcoin ซึ่งอาจจะดูซับซ้อนสักหน่อยแต่เมื่อศึกษามากขึ้นคุณก็จะเข้าใจได้มากนัก
การลงทุน Bitcoin , เทรด Bitcoin กำไรมหาศาล หรือขาดทุนยับ รวมถึงการอวดรายได้ผ่านโซเชียลออนไลน์ การเป็นคดีฉ้อโกงในสื่อสาธารณะ หลายเรื่องราวเกี่ยวกับ Bitcoin คืออะไร ควรศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้กระแสสื่อหรือสังคมออนไลน์พาไปพร้อมความเข้าใจผิดๆ ไม่ว่าจะเรื่องบวกหรือลบ
สิ่งที่ควรเรียนรู้เกี่ยวกับบิทคอยน์
การเลือกลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ดังนั้น ก่อนจะลงทุนอะไร ควรมีความรู้ในเรื่องนั้นก่อน
- รู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนใน Bitcoin มีแหล่งความรู้และการแชร์ประสบการณ์ ตลอดจนข่าวสารเรื่องการหลอกลวงให้ศึกษาจะได้ลงทุนอย่างรอบคอบ
- รู้จักวัฏจักรตลาด ความผันผวนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น จะได้รับมือถูก ไม่ล้มเหลวจากการลงทุนทั้งที่หวังกำไร
- รู้จักใช้เครื่องมือ เรียนรู้เทคนิค การทำกำไร
ทำความรู้จัก Bitcoin Wallet กระเป๋าเก็บ bitcoin
การลงทุนใน Bitcoin ด้วยการขุดเป็นอีกการลงทุนหนึ่งที่ได้รับความสนใจ เหมือนเช่นการลงทุนแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้น การลงทุนในทองคำ การขุดBitcoinนั้นคุณสามารถขุดแบบส่วนตัวขุดคนเดียวหรือจะขุดร่วมก็แล้วแต่ความสะดวก ซึ่งหากคุณต้องการจะเริ่มขุด Bitcoin คุณจะต้องรู้จักวิธีการและขั้นตอนต่างๆที่มีความสำคัญ อย่างเช่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับ Bitcoin Wallet หรือกระเป๋าเก็บ bitcoin
เพื่อให้คุณรู้จักกับBitcoin Wallet หรือกระเป๋าเก็บ bitcoin มากยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมข้อมูลเอาไว้ให้แล้ว เพื่อให้ทุกท่านได้ลงทุนใน Bitcoin กันอย่างสนุก
Bitcoin Wallet กระเป๋าเก็บ bitcoin เอาไว้ทำอะไร?
Bitcoin Wallet หรือ กระเป๋า Bitcoin ก็คือโปรแกรมซอฟท์แวร์ที่มีหน้าที่ในการส่งและรับบิทคอยน์
เมื่อคุณลงทุนในBitcoinมาได้ก็จะต้องนำมาเก็บไว้ใน Bitcoin Wallet เนื่องจากการเก็บ Bitcoin จะต้องเก็บในที่เฉพาะและจะต้องมีรหัสลับที่เปรียบเสมือนกุญแจตู้เซฟของคุณของ Bitcoinนั้นๆ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง กระเป๋า Bitcoin มีอยู่หลายรูปแบบทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อื่นๆ ซึ่งใครสะดวกแบบไหนก็ใช้แบบนั้น ซึ่งเราจะขอแนะนำ กระเป๋า Bitcoin ที่ได้รับความนิยม ดังนี้
– Blockchain : กระเป๋า Bitcoin ที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มีความปลอดภัยระดับสูงทำงานเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต Blockchain จัดทำบัญชีแยกประเภทแบบการกระจายตัวของสกุลเงินดิจิตอล โดยการสร้างบล็อกขึ้นมาใหม่เพื่อเก็บรายการการซื้อขายแลกเปลี่ยน
– GreenAddres : สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบหน้าเว็บ, โปรแกรมคอมพิวเตอร์, ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
– Mycelium : กระเป๋า Bitcoin ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือสามารถใช้งานได้โดยตรงกับ Android และ iOS หน้าจอใช้งานง่ายรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
– Edge : กระเป๋า Bitcoin ออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานทั้งมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญมีระบบแบคอัพอัตโนมัติ
– Electrum : Bitcoin Desktop Wallet เน้นความปลอดภัยระดับสูง สามารถใช้งานได้กับหลายอุปกรณ์ Windows Linux หรือ Mac และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อื่นๆ เช่น Ledger Nano และTREZOR
– Ledger Nano S และ Trezor Hardware Wallet : : เป็นการเก็บ Bitcoin ด้วยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เป็นการเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ มีความปลอดภัยขั้นสูงปราศจากการแฮคข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เหมาะกับลงทุนระดับสูงที่มีข้อมูลสำคัญจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามถึงแม้กระเป๋าBitcoinจะมีความปลอดภัยขั้นสูงแต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้างเล็กน้อยในบางจุดเพราะข้อมูลส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเพื่อให้กระเป๋าBitcoinมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นจึงมีการเก็บข้อมูลกระเป๋าสตางค์แบบร้อน (ออนไลน์) และกระเป๋าสตางค์แบบเย็น (ออฟไลน์) ซึ่งการเก็บข้อมูลทั้ง2แบบนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปแต่ก็สามารถเติมเต็มกันได้อย่างลงตัว
Bitcoin ซื้อขายอย่างไร
Bitcoin สกุลเงินแบบดิจิตัล ที่กำลังได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก Bitcoin เริ่มได้รับการยอมรับจากร้านค้าและบริการต่างๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม หรือร้านค้าออนไลน์ Bitcoin เป็นระบบการเงินที่มีความโปร่งใส และมีการโกงกันยากมาก เพราะฉะนั้นนี่คือจุดแข็งของ Bitcoinเลยก็ว่าได้ แต่บางคนอาจยังไม่เข้าใจว่า Bitcoin มีการซื้อขายกันอย่างไร จะหา Bitcoin ได้จากที่ไหน
บทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อขาย Bitcoin ว่าทำอย่างไร ซึ่งเป็นการอธิบายแบบเข้าใจง่าย แน่นอนว่าคุณจะเข้าใจ Bitcoinมากยิ่งขึ้น
Bitcoin ซื้อขายอย่างไร ?
อย่างที่เราพบทราบกันแล้วว่า Bitcoin เป็นระบบการเงินดิจิทัลที่ไม่มีรูปแบบที่จับต้องได้เหมือนกับการเงินทั่วๆไป การทำธุรกรรมต่างผ่านระบบดิจิตัลที่ทันสมัยมีความน่าเชื่อถือ ไร้ความผิดพลาด และเมื่อไม่มีรูปแบบที่ตายตัวเราจะสามารถซื้อขายได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกคนกำลังสงสัย
เราสามารถที่จะลงใน Bitcoin หรือซื้อขาย Bitcoinได้อยู่ 2 วิธีด้วยการกันคือ
- การขุด Bitcoin
Bitcoin เปรียบเสมือนทองคำ ที่คุณสามารถขุดได้ Bitcoin ในโลกนี้ทั้งหมดมี 21 ล้านBitcoin ไม่สามารถเพิ่มเติมได้มากกว่านี้เป็นสิ่งที่มีจำกัด โดยคุณสามารถลงทุนได้จากการขุด ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะเฉพาะเรียกว่าเครื่องAsicที่มีความสามารถพิเศษในการแก้สมการคณิตศาสตร์ของ Bitcoin หากใครสามารถแก้ได้ก่อนผู้นั้นจะได้รับ Bitcoinเป็นค่าตอบแทน ซึ่งราคาเจ้าเครื่องAsicก็มีความผันผวนอยู่พอสมควร และหากคุณต้องการที่จุดขุด Bitcoinอาจต้องเข้าร่วมกับเหมืองขุดจึงจะคุ้มกว่าเนื่องจากราคาBitcoin มีความผันผวนอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามซึ่งหากคุณคิดว่ามันคือการลงทุนและไม่ได้รีบใช้เงินอะไรมากมาย ก็นับว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
- การเทรด Bitcoin
การเทรด Bitcoin นั้นมีขั้นตอนที่เหมือนกันการเทรดหุ้นที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพียงคุณสมัครสมาชิก ยืนยันตัวตน และทำการโอนเงินเข้าเว็บสำหรับเทรดBitcoin ซึ่งวิธีการลงทุนด้วยการการเทรด Bitcoin คุณจะมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากกว่าการขุด Bitcoin การลงทุนน้อยกว่า ส่วนเรื่องความเสี่ยงนั้นก็คล้ายๆกับการเทรดหุ้นซึ่งมีความผันผวนเช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยก็มีเว็บไซต์ที่ให้บริการเทรด Bitcoinอยู่หลายเว็บด้วยกัน และยังมีเว็บไซต์ที่ซื้อขาย เว็บไซต์สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมาพบปะและแลกเปลี่ยน Bitcoin กันโดยไม่ผ่านตัวกลาง ในประเทศไทยได้มีกฎหมายสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทำให้คนไทยสบายใจได้กับการลงทุนในBitcoin ซึ่งได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างถูกต้อง
การลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง ย่อมมีความเสี่ยงสูง ต้องเรียนรู้ และทำอย่างรอบคอบจะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้